ณเดชน์ คูกิมิยะ – Nadech Kugimiya
ไปมาหลายวันเพิ่งจะมีเวลามาบันทึกไว้
อีกครั้งที่มีธุระต้องไปเมืองหลวง ก่อนไปก็วางแผนการเดินทางอีกเช่นเคย ไปรอบนี้มีเวลาว่างเพียงแค่ 1 วัน คือ วันศุกร์ที่ 27 กันยายน 2562 ก็คือวันที่เดินทางไปถึงนั่นเอง วางเป้าหมายไว้ 3 เป้าหมายทำอย่างกับตัวเองอายุน้อยๆ ดูซิว่าจะมีแรงไปได้ขนาดไหน
- เป้าหมายที่ 1 คือ ไปเที่ยวตามแนวรถไฟฟ้าใต้ดินเปิดใหม่
- เป้าหมายที่ 2 คือ ช่วงเย็นไปเดอะมอลล์บางกะปิ เพื่อดูตัวจริงของ น้อง ณเดชน์ คูกิมิยะ ไหนๆ ก็กลายเป็นติ่งของ NY ไปแล้วโดยปริยาย เพราะเริ่มรู้จักน้อง ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ ก่อน แล้วก็ติดสอยห้อยตามไปเป็นติ่ง NY (Nadech+Yaya) นี่เพิ่งจะครบ 1 ปีที่รู้จัก และติดตามผลงานน้องๆ เขานะเนียะ ไหนๆ มีโอกาสแล้วก็ต้องไม่พลาด
- เป้าหมายที่ 3 คือ ไปเดินเล่นเยาวราชตอนกลางคืน
บินไปถึงราวๆ 10 โมงเช้า ต่อรถเมลล์ A1 30 บาท จากสนามบินดอนเมืองไปลง รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT จตุจักร และก็นั่งยาวๆ 42 บาท ไปลง MRT อิสรภาพ เป้าหมายที่ 1 แล้วก็ตะลอนเที่ยวเรื่อยๆ วัดอรุณฯ ชุมชนกุฎีจีน MRT สนามไชย วัดโพธิ์ เดินเที่ยวจนบ่าย 3 โมง
เพื่อ เป้าหมายที่ 2 ก็เดินทางไปยัง MRT สามยอด เพื่อไปยังท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศ นั่งมอเตอร์ไซต์รับจ้างต่อไปยังท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศ 20 บาท (หลานแนะนำให้นั่งเรือคลองแสนแสบไป จะเร็วที่สุด) แต่ก็ต้องทำใจเรื่องน้ำคลองแสนแสบละนะ แต่ก็ต้องไปเพราะเป็นทางเดียวที่จะไปถึงได้เร็วที่สุด เป็นการนั่งเรือคลองแสนแสบครั้งที่ 2 ในชีวิตก็ว่าได้ ครั้งแรกนี่น่าจะ 20 กว่าปีก่อนละ ฮาๆ….
ใช้บริการพี่มอเตอร์ไซต์แบบซิ่งๆ ไปยังท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศ เพิ่งจะเคยมาที่นี่ครั้งแรก ตื่นตา ตื่นใจ ดีเหมือนกัน แต่แน่ๆ ตื่นกลัวน้ำในคลองแสนแสบ เห็นแล้วนึกถึงเนื้อเพลง “อกพี่กลัดหนอง พี่หมองดั่งคลองแสนแสบ” กันเลยทีเดียว หุๆ น้อง ณเดชน์ คูกิมิยะ จะรู้ไหมเนียะว่า ตั้งใจไปเจอตัวจริงน้องแค่ไหน (พิมพ์บอกไปเผื่อน้องเขาผ่านมาทางนี้ จะได้รู้จักกันไว้ ว่าพี่คนนี้มันก็บ้าดีเหมือนกันเนาะ ฮาๆ)
เรือออกจากท่าประมาณบ่าย 3 โมงครึ่ง ค่านั่งเรือ 19 บาท ใช้เวลา 1 ชั่วโมง นิดๆ ก็ไม่นิด ไปถึงเกือบ 5 โมงเย็น เรือก็โคลงเคลงตามประสาเรือ ดีนะไม่เมาเรือ ด้วยความตั้งใจเลยไม่เมาเรือว่าไปนั่น ฮาๆ
ไปถึงเดอะมอลล์บางกะปิ เดินเข้าไปในห้างหาอีกว่าอยู่ตรงไหน คือ ไม่ได้มาห้างนี้นานน่าจะ 20 กว่าปี อีกแล้ว! เดินเข้าไปลึกพอสมควร พอไปถึงคนเยอะ แหวกดูยังไงละเนียะ สูงๆ ทั้งนั้น ในที่สุดก็มุดๆ เบียดๆ เขาไปพอได้บ้าง และแล้วความตั้งใจก็สมใจ เมื่อได้เห็นกับตาตัวเองแล้ว ว่านั่นคือ น้อง ณเดชน์ คูกิมิยะ ที่ฟังๆ เขามาว่าหล่อ อย่างนั้นอย่างนี้ วันนี้มาเห็นกับตา ก็อืมมมมม “หล่อ..จริงวุ้ยยยยยย!!!” เชื่อละว่าหล่อจริง ฮาๆ คือ เราเป็นคนไม่ค่อยจะเชื่อคำบอกเล่า นอกจากต้องเห็นกับตาตัวเองก่อน บางคนเราว่าหล่อ ว่าสวย คนอื่นว่าไม่หล่อไม่สวย บางคนเราว่าไม่หล่อไม่สวย คนอื่นว่าหล่อ ว่าสวย ก็เลยมาดูให้เห็นกับตาตัวเอง และก็นึกถึงคำพูดของหลานที่ทำงานในวงการบันเทิงบอกว่า ดาราหนะ มี
- บางคนตัวจริงไม่หล่อ แต่พออยู่ในจอทีวีหล่อ
- บางคนตัวจริงหล่อ แต่พออยู่ในจอทีวีไม่หล่อ
- บางคนตัวจริงหล่อ แต่พออยู่ในจอทีวีหล่อ และมีออร่า
เรายกให้ น้องแบรี่ ณเดชน์ อยู่แบบ 3 เลยละกัน หล่อทั้งนอกจอและในจอ ยังไม่พอมีออร่า อีกต่างหาก หล่อทั้งการวางตัว และปฎิบัติตัวอีกต่างหาก สมกับเป็นเบอร์ 1 ในวงการบันเทิงยุคนี้ซะจริงๆ ยืนมองด้วยตาเปล่าจนพอใจ ก็หยิบกล้องถ่ายภาพมาไว้นิดหน่อยเพื่อมาประกอบบทความนี้
ยืนมองอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล พอซูมกล้องไปได้นิดหน่อย
โอกาสหน้าหากเจอ อยากเจอแบบไม่แต่งหน้าเนาะ หลานบอกว่า ณเดชน์ เวลาไม่แต่งหน้า หน้าละอ่อน หล่อเลยทีเดียว
ไปๆ มาๆ ตอนนี้กลายเป็นติ่ง NY โดยไม่รู้ตัวไปละ มีความสุข และรอยยิ้มออกมาทุกครั้งที่เห็นภาพของทั้งน้องณเดชน์ และน้องญาญ่า เวลาอยู่ด้วยกัน พี่จะรอติดตามผลงานน้องๆ เรื่อยๆ นะจ๊ะ แน่ๆ ตอนนี้มีละครลิขิตรักข้ามดวงดาว ของน้องณเดชน์ พี่เองก็ดูทุกตอน ไม่เคยดูหรอกนะเวอร์ชั่นเกาหลี ก็เหมือนมาดูละครเรื่องใหม่ๆ เรื่องนี้ น้องณเดชน์ หล่อมากกกกกกกกกก ก.ไก่ ล้านตัว ตัวละครก็สนุกนะ ทั้งพระเอก และนางเอก แสดงได้ดีเลย เนื้อเรื่องเริ่มเข้มข้นสนุกขึ้นเลยๆ เรื่องนี้ดีหน่อย ไม่อึดอัดเหมือนกลิ่นกาสะลอง ดูกลิ่นกาสะลองแล้วเครียด แต่ก็ดูจนจบนะ ดูไปบ่นไป ฮาๆ แต่เรื่องลิขิตรักข้ามดวงดาวนี่ ดูแบบไม่เครียด เบาๆ สบายๆๆ เหมือนเพลงพี่เบิร์ดร้องเลย ใครยังไม่เคยดูก็ลองเปิดดูกันนะจ๊ะ เราไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆ กับช่อง 3 เขียนถึงเพราะละครสนุกจริงจ๊ะ พระเอก นางเอก ก็แสดงกันเก่ง ว่าแล้วอยากให้ถึงวันจันทร์ไวๆ จังเลยเนาะ อยากเจอ อาจารย์อชิระ ของน้องญาญ่า
ยืนอยู่ในงานไม่นานเท่าไหร่ ยืนมองจนพอใจแล้ว ก็รีบเดินทางต่อ ขากลับเลือกนั่งรถเมลล์เพื่อไปลง MRT ลาดพร้าว เพื่อเป้าหมายที่ 3 เยาวราชกลางคืน ดู google map แล้วบอกว่าประมาณ 8 กิโล เป็นการตัดสินใจพลาดมาก เพราะนั่งอยู่บนรถเมลล์ 8 กิโล แต่ใช้เวลานานถึง 1 ชั่วโมง กว่าจะถึง MRT ลาดพร้าว รู้งี้ นั่งเรือกลับยังดีกว่าซะอีก! ก็ได้แต่รู้งี้ละนะ แต่ก็ได้ไปเดินหาอะไรกินที่เยาวราชสมดั่งความตั้งใจ จบทริป 3 เป้าหมาย ของวันได้อย่างลงตัว และแรงหมดเมื่อถึงที่พัก!
ดีใจที่ได้เห็นน้องณเดชน์ ตัวจริงนะ ดีใจที่ได้รู้จักทั้งน้องณเดชน์ และน้องญาญ่า น้องๆ ทำให้พี่และแฟนคลับทุกๆ คน พลอยมีความสุขไปด้วยเมื่อเห็นน้องทั้งสองบนสื่อต่างๆ หากจะพากันไปเที่ยวแบบที่ชิลๆ สบายๆ ขึ้นเหนือมาเที่ยวเชียงรายบ้างก็ได้นะ ที่เที่ยวธรรมชาติก็เยอะ วัดก็แยะ Welcome รอที่เหนือสุดในสยามนะจ๊ะ
ตอนนี้น้อง ณเดชน์ ก็เปิด Instagram เป็นของตัวเอง ก็ทำให้พวกเราเหล่าแฟนคลับได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นอีกช่องทางหนึ่ง หวังว่าจะได้เห็นผลงานด้านการแสดง และผลงานด้านอื่นๆ ของน้องเรื่อยๆ เชื่อว่าหลายๆ คน กำลังตั้งหน้าตั้งตารอดูละคร หรือหนังเรื่องใหม่ โดยเฉพาะเมื่อได้แสดงคู่กับน้องญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์แน่นอน
ขอบคุณรถไฟฟ้าใต้ดินที่มีเส้นทางใหม่ๆ สะดวกสบายในการเดินทาง
ขอบคุณพี่วินมอเตอร์ไซต์ที่ซิ่งราวอยู่บนสนามแข่ง
ขอบคุณทีมงานเรือคลองแสนแสบที่ขับเรือที่โคลงเคลงแล้วเราไม่เมา
ขอบคุณกระเป๋ารถเมล์ ปอ.อะไรจำไม่ได้
ขอบคุณหลานที่บอกให้นั่งเรือ
ขอบคุณโอกาสดีๆ ที่มีเข้ามาเสมอๆ
ขอบคุณความตั้งใจของตัวเอง
แล้วพบกันเมื่อโอกาสนั้นมาถึง
หนึ่ง
2 ตุลาคม 2562
Wikipedia เล่าถึง ณเดชน์ คูกิมิยะ
ณเดชน์ คูกิมิยะ เกิดเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2534 เป็นนักแสดงและนายแบบลูกครึ่งไทย-ออสเตรีย มีชื่อเสียงจากผลงานแสดงทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 โดยเฉพาะละครเรื่อง “ดวงใจอัคนี, เกมร้ายเกมรัก” ซึ่งแสดงร่วมกับอุรัสยา เสปอร์บันด์ เป็นผู้นำเสนอภาพยนตร์โฆษณาสินค้าต่าง ๆ มากมาย เข้าร่วมในกิจกรรมรณรงค์ด้านสังคม งานการกุศล เช่น เป็นพรีเซ็นเตอร์ รณรงค์เชิญชวนชายไทยคัดเลือกทหาร ให้กับทางกองทัพบก การได้รับเลือกจากสภากาชาดไทย เป็นทูตรณรงค์เผยแพร่ความรู้ต้านภัยมะเร็งเต้านม ในปี 2554-2555 ได้รับเลือกจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ให้เป็นทูตพระพุทธศาสนาวิสาขบูชานานาชาติ เป็นต้น มีผลงานการพากย์เสียงการ์ตูน และได้รับรางวัลผลงานดีเด่นในวงการบันเทิงมากมาย
จากการที่ประชาชนพบเห็นณเดชน์ปรากฏตัวผ่านสื่อต่าง ๆ มากมายอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็น ละครโทรทัศน์, ภาพยนตร์, โฆษณา, นิตยสาร ฯลฯ ทำให้บางกอกโพสต์ เรียกณเดชน์ว่า “มิสเตอร์เอพวี่แวร์” ความสำเร็จในวงการบันเทิง อาทิเช่น ได้รับฉายา “ซุปตาร์พันธุ์ข้าวเหนียว” จาก สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2554 การได้รับรางวัล “ขวัญใจมหาชน” จากงาน สยามดาราสตาร์อวอร์ด 2011 รวมทั้งรางวัลนักแสดงนำชายดีเด่นในหลาย ๆ สถาบันที่สำคัญ จากละครเรื่อง “เกมร้ายเกมรัก” ได้แก่ รางวัลเมขลา ครั้งที่ 24, รางวัลนาฏราช ครั้งที่ 3, สยามดาราสตาร์อวอร์ด 2012 เป็นต้น ไปจนถึงได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 14 ดาราแห่งศตวรรษ และ 1 ใน 120 คนบันเทิง ผู้ทรงอิทธิพลครึ่งปีแรก 2555 โดยนิตยสารวิเคราะห์วงการบันเทิง รีเควส รวมทั้งดาราทรงอิทธิพลในวงการบันเทิง โดยหนังสือพิมพ์ ดาราเดลี่ เป็นต้น ไปจนถึงผลการสำรวจความนิยมในอันดับ 1 ของสถาบันต่าง ๆ มากมาย
ประวัติคร่าวๆ ของน้อง ณเดชน์ คูกิมิยะ
ณเดชน์ คูกิมิยะ มีชื่อเดิมว่า ชลทิศ ยอดประทุม ชื่อเล่น แบรี่ เกิดวันอังคารวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2534 ที่จังหวัดขอนแก่น โดยชื่อจริงมารดาบุญธรรมเป็นผู้ตั้งให้ เป็นคำประสมระหว่าง ณ+เดชน์ มีความหมายว่า “ผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาด” โดยความหมายในพจนานุกรม คำว่า “เดชน์” แปลว่า “ลูกศร” ส่วน ณ ในที่นี้มาจากคำว่าญาณ หมายถึง ปัญญา ความรู้ ซึ่งตัด ณ มาเพียงตัวเดียว เมื่อรวมความหมายเข้าด้วยกันแล้ว จะได้ความหมายว่า ผู้มีปัญญาแหลมคมดุจลูกศร ซึงหมายถึง ผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาด ส่วนชื่อเล่นเดิมบิดาชาวออสเตรียตั้งให้ว่า “แบร้นด์ (Brand)” แต่เนื่องจากอ่านออกเสียงค่อนข้างยาก ครอบครัวของเขาจึงเรียกเพี้ยนมาเป็น แบรี่ หมายถึง “สิ่งที่อยู่บนท้องฟ้า”
ณเดชน์ เข้าสู่วงการ
เมื่อปี พ.ศ. 2551 ผู้จัดการนักแสดง ศุภชัย ศรีวิจิตร ได้ไปเยี่ยมบ้านของศุกลวัฒน์ คณารศ ที่ขอนแก่น และพบณเดชน์ซึ่งอาศัยในหมู่บ้านเดียวกันโดยบังเอิญ จึงร้องขอต่อสุดารัตน์ให้บุตรบุญธรรมเข้าร่วมเป็นนักแสดงในสังกัด ซึ่งเธอก็ยินยอม โดยก่อนหน้านั้นศุภชัยได้รู้จักกับอาจารย์ของณเดชน์ รวมทั้งเคยเห็นภาพณเดชน์จากอินเทอร์เน็ตมาบ้าง แต่เนื่องจากณเดชน์ยังมีอายุเพียง 15 ปี และกำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.4 เขาใช้เวลาฝึกบุคลิกภาพ ความสามารถต่าง ๆ ด้านการแสดงเป็นเวลา 2 ปีก่อนที่จะพาเข้าสู่การทำงานในวงการ ปัจจุบันณเดชน์มีบ้านของตัวเองที่กรุงเทพมหานครแล้ว
ในตอนแรกณเดชน์ไม่มีความคิดอยากที่จะเป็นนักแสดง เพราะเคยมีอคติส่วนตัวต่อวงการบันเทิงไม่ชอบดูละคร แต่ด้วยคำแนะนำของสุดารัตน์และศุภชัยจึงได้เข้าสู่วงการ ดารานักแสดงทางฝั่งฮอลลีวูดที่ณเดชน์ชื่นชอบคือ นิโคล คิดแมน เพราะดวงตามีเสน่ห์ มองแล้วรู้สึกประทับใจ โดยให้เหตุผลว่า “ผมชอบเวลามองผู้หญิง แล้วเขามองกลับมาครับ เพราะตาของผู้หญิงแต่ละคนสามารถบอกได้ว่า เขาคิดยังไงกับเรา” แม้ณเดชน์มีภาพลักษณ์ที่สนุกสนานร่าเริง แต่เคยให้สัมภาษณ์ว่า บางครั้งมีโลกส่วนตัวสูง ไม่ต้องการพบปะผู้คน และต้องปรับตัวในการเข้าสู่วงการบันเทิงมาก
เมื่อเข้าเป็นนักแสดงในสังกัดของศุภชัยแล้ว ณเดชน์จึงเริ่มงานด้านการเดินแบบเป็นครั้งแรกในงานการกุศลของศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ แล้วจากนั้นก็เริ่มมีผลงานถ่ายแบบให้กับนิตยสารหลายฉบับ โดยครั้งแรกที่ทำงานในวงการบันเทิง ณเดชน์ อายุ 17 ปี กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.5 และผลงานแรกที่ปรากฏแพร่ภาพทางวิทยุโทรทัศน์คือภาพยนตร์โฆษณาหมากฝรั่ง ไทรเด้นท์ รีแคลเดนท์ คู่กับพัชราภา ไชยเชื้อ
ต่อมาในปี พ.ศ. 2552 ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้มีการคัดเลือกนักแสดงขึ้น โดยณเดชน์ผ่านการคัดเลือกให้เข้ามาเป็นนักแสดงหน้าใหม่ เพื่อร่วมแสดงในละครโทรทัศน์ เงารักลวงใจ เป็นเรื่องแรก และในปี พ.ศ. 2553 ได้มีผลงานละครที่สร้างชื่อเสียงคือ ดวงใจอัคนี , เกมร้ายเกมรัก ความนิยมจากการแสดงละครโทรทัศน์ส่งผลให้ณเดชน์ ได้รับเลือกให้เป็นผู้นำเสนอในภาพยนตร์โฆษณาสินค้าเพิ่มขึ้นมากมาย จากผลงานโฆษณาที่มีอยู่เป็นจำนวนมากของณเดชน์ทำให้ โพสต์ทูเดย์ กล่าวว่า ณเดชน์คือ “แชมป์พรีเซ็นเตอร์” รวมทั้งชื่อเสียงในการแสดงละครคู่กับอุรัสยา เสปอร์บันด์ ทำให้ได้นำเสนอภาพยนตร์โฆษณาต่าง ๆ ร่วมกันหลายเรื่อง จนกระทั่งถูกเรียกให้เป็นพระนาง คู่ขวัญกัน
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมของน้องแบรี่ หรือน้องณเดชน์ คูกิมิยะ ได้ที่ wikipedia.org
Facebook Comments