หลังจากที่แวะไหว้พระธาตุช่อแฮ และทานมื้อเช้าด้วย “ขนมจีนน้ำหมู” แล้ว เราก็มีโอากาสแวะที่บ้านร่องฟอง เป็นแหล่งทำเสื้อผ้าราคาถูก แวะช้อปปิ้งกันนิดๆ หน่อยๆ พอหอมปากหอมคอ ก็พากันมุ่งหน้าไปยัง จ.น่าน… ระหว่างทางผ่าน บ้านแม่หล่าย จ.แพร่ นึกขึ้นได้ว่า ดังเรื่องขนมครก ก็แวะที่บ้านแม่หล่ายกันอีกเพื่อจะซื้อขนมครกแม่หล่ายกัน เพื่อนบอกว่าอร่อยดี ก็ดีใจที่เพื่อนชอบ ^-^ หิ้วขนมครกติดขึ้นรถกันแล้ว คราวนี้ก็มุ่งหน้าเดินทางไปยังจ.น่าน ระยะทางประมาณ 80-90 โล ก็ขับรถสบายๆ ขับไปก็รู้สึกว่าถนนนี้เป็นของเรา ฮาๆ เพราะไม่ค่อยจะมีรถวิ่งให้วุ่นวายเลยแหละ ตลอดเส้นทางต้นไม้ก็เชียวชะอุ่ม ไม่เหมือนหน้าร้อนเลย
เข้าสู่เขตจังหวัดน่านกันแล้ว… ถนนก็โล่ง แดดไม่แรง อะไรจะโชคดีปานนั้น เมื่อถึงตัวอำเภอเมืองน่านแล้ว จะมีไฟแดงเก๋ๆ ให้ชมกัน เราไปถึงประมาณ บ่ายโมง
เมื่อเราขับรถตรงเข้าเขตอำเภอเมืองแล้ว ไปเรื่อยๆ จะมีแยกบอกว่า เลี้ยวขวาไปวัดภูมินทร์ เราก็เลี้ยวขวา และก็ตรงไปจะเจอสี่แยกใหญ่ๆ จะว่าไปแยกนี้น่าจะเป็นแยกแห่งวัฒนธรรมจริงๆ เพราะมีทั้งวัดภูมินทร์ วัดช้างค้ำ พิพิธภัณฑ์ และจุดบริการนักท่องเที่ยว เรานำรถไปจอด ณ ลานจอดรถตรงจุดบริการนักท่องเที่ยว ตรงข้ามวัดภูมินทร์ และเข้าไปติดต่อเรื่องเวลานั่งรถรางชมเมือง ปรากฎว่ามีรอบถัดไปคือ 15.30 น. แต่เราไปถึงประมาณ 13.00 น. มีเวลาเหลือเฟือที่จะเดินเที่ยววัดโดยรอบได้ เราเลือกเดินข้ามถนนไปยังวัดภูมินทร์ก่อนอันดับแรก เข้าไปไหว้พระในวัด และชมภาพจิตกรรมฝาผนัง
หน้าตาคนอิ่มบุญ ฮาๆ
อากาศร้อนมาก ทีแรกจะพากันเดินข้ามถนนไปวัดช้างค้ำที่อยู่อีกฝั่ง แต่ทนความร้อนไม่ไหว เปลี่ยนเป็นขับรถไปแทน 55 แต่ว่าเราเลือกไปพิพิธภัณฑ์ก่อน ที่อยู่ตรงข้ามกับวัดช้างค้ำ เราโชคดีที่วันนี้พิพิธภัณฑ์เปิด ค่าบัตรเข้าไปชมคนละ 30 บาท ภายในพิพิธภัณฑ์มี “งาช้างดำ” ที่เป็นสิ่งที่คู่บ้านคู่เมืองของเมืองน่านมานาน
จากมุมข้างบนของพิพิธภัณฑ์มองออกมาเห็นวัดช้างค้ำที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เป็นมุมที่สวยอีกมุมหนึ่ง (ภายในพิพิธภัณฑ์ เขาห้ามถ่ายรูป ได้แต่ถ่ายข้างนอก)
ก่อนที่เราจะนั่งรถรางชมตัวเมืองน่าน ในรอบ 15.30 น. เราได้แวะไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ และก็วัดช้างค้ำที่อยู่ใกล้ๆ ด้วย สำหรับวัดช้างค้ำจะมีพระธาตุที่มีรูปปั้นช้างล้อมรอบ ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ให้ได้ชื่นชมกัน หากใครได้มีโอกาสไปเยือนอย่าลืมแวะไหว้พระที่วัดช้างค้ำนี้ด้วยเน้อ ^-^
เดินชมภายในวัดช้างค้ำเสร็จเรียบร้อยก็ใกล้เวลาที่จะไปขึ้นรถรางชมเมือง ณ จุดบริการนักท่องเที่ยวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับวัดช้างค้ำ เราพากันไปยังจุดจอดรถเพื่อขึ้นรถราง ทีแรกเห็นคิดว่า สงสัยมีเฉพาะเราที่นั่งแน่ๆ ดูแล้วไม่มีคนอื่นเลย ที่ไหนได้ ซักพัก มีนักท่องเที่ยวมาพรึบเดียวเต็มคันรถ 555 แสดงว่าเขาก็คงไปเที่ยวที่อื่น และรอเวลาเหมือนเรา ก่อนขึ้นรถก็ถ่ายรูปกับรถหน่อย เดี๋ยวจะว่าไม่ได้นั่งจริง อิอิ
ได้นั่งหน้าสุดเลย ทำให้เห็นภาพวิวต่างๆ ชัดเจน อิอิ (รถรางเกียร์ออโต้ด้วยแหละ) บนรถมีไกด์คอยแนะนำสถานที่ต่างๆ ตลอดทาง
วัดมงคล ไกด์บอกว่าใครอยากได้คู่ ให้นำเทียนคู่มาไหว้พระที่วัดนี้ อิอิ
บรรยากาศในตัวเมืองน่าน ที่เงียบสงบ ใช้เวลานั่งรถรางชมเมืองน่าน ประมาณ 1 ชั่วโมง สำหรับที่ต้องการนั่งแนะนำให้มารอบอื่น ไม่ควรมารอบเย็นเพราะเวลาดูค่อนข้างจำกัด เพราะเคยมานั่งครั้งหนึ่งช่วงที่พาแม่กับน้องมา ตอนนั้นเรานั่งประมาณบ่าย รถพาเราแวะวัด 2 แห่ง แต่คราวนี้ที่นั่งแวะแห่งเดียว ยังไงลองเช็คเวลากับทางศูนย์บริการนักท่องเที่ยวน่านก่อนเน้อเจ้า ^-^ เย็นแล้วเราพากันเข้าที่พัก เป็นที่พักเพิ่งเปิดใหม่ ราคาแค่ 450 บาท ต่อคืนเอง ลองดูได้ที่ k1hotel.com อยู่ถนนด้านหลังของสนามบินน่าน
Facebook Comments